ถึง 1100000 บาท
ถึง 12-28% ต่อปี
24 ชม.
1-60 เดือน
ถึง 800000 บาท
ถึง 6-28% ต่อปี
48 ชม.
1-60 เดือน
ถึง 380000 บาท
ถึง 10-28% ต่อปี
1-2 วัน
1-24 เดือน
ถึง 750000 บาท
ถึง 0.93-28% ต่อปี
24-96 ชม.
1-60 เดือน
เดี๋ยวนี้ไม่ว่าใครต่างก็สมัครทำบัตรเครดิตกันเอาไว้ทั้งนั้น เพราะมันเป็นเหมือนตัวช่วยที่จะทำให้คุณอุ่นใจได้ว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินเงินสดขาดมือขึ้นในชีวิตอย่างแน่นอน เนื่องจากการทำบัตรเครดิตสามารถใช้งานได้หลากหลาย ตั้งแต่รูดจ่ายสินค้า ใช้ผ่อนสินค้าที่ราคาสูงให้เราได้มาใช้งานก่อนแล้วทยอยจ่ายทีหลัง รวมถึงสามารถกดเงินสดออกมาใช้งานได้ด้วย ถ้าขาดสภาพคล่องจริงๆ การทำบัตรเครดิตเอาไว้ก็ช่วยเราได้เยอะ
แต่ในทางกลับกัน หากเราทำบัตรเครดิตเอาไว้ แล้วดันลืมจ่าย หรือชำระไม่ครบกำหนด ติดหนี้บัตรเครดิตอยู่มาก ปิดบัตรไม่ลง แบบนี้ก็มีสิทธิ์ทำให้ชื่อเสียง หรือเครดิตทางการเงินเราเสียหายเช่นกัน ซึ่งมันจะมีผลยังไงกับคนที่ต้องการกู้เงินซื้อรถ หรือขอสินเชื่อรถยนต์มือสองบ้าง ไปดูกันเลย
สำหรับใครที่ทำบัตรเครดิตแล้วไปกู้ยืมมาเยอะปิดหนี้ไม่ลงอันนี้ต้องระวังให้มาก เพราะถ้าเป็นหนี้แล้วอยากจะซื้อรถยนต์ไม่ว่าจะมือหนึ่งหรือมือสองก็เป็นเรื่องที่ยากเช่นกัน เพราะการขอสินเชื่อรถยนต์นี้จะไม่ได้รับการอนุมัติเท่าที่ควร เพราะเราติดหนี้อยู่ก่อนแล้วนั่นเอง โอกาสผ่านการอนุมัติจึงน้อยมาก ต้องแลกมาด้วยการเลือกซื้อด้วยเงินดาวน์ที่สูงแทน เพื่อให้การผ่อนในแต่ละเดือนนั้นถูกลง ซึ่งผ่อนจ่ายน้อยลง โอกาสการกู้ได้ก็จะมากขึ้น
แน่นอนว่ามีผลอยู่แล้วครับ เพราะการขอสินเชื่อ ธนาคารจะต้องเช็กประวัติการเงินเราทั้งหมด ซึ่งถ้าเรามีภาระหนี้ที่ค่อนข้างสูงจากการทำบัตรเครดิตแล้วต้องผ่อนนู่นนี่เยอะมากในแต่ละเดือน ธนาคารก็จะมองว่าเราไม่มั่นคง ไม่มีความสามารถในการชำระหนี้ก้อนที่จะเพิ่มขึ้นจากการซื้อรถได้แน่ ดังนั้นควรจะทำให้หนี้บัตรเครดิตลดลงก่อน ค่อยกู้เงินซื้อรถดีที่สุด
ทีนี้ถ้าเราทำบัตรเครดิตแล้วเกิดมีหนี้เยอะ แต่อยากกู้เงินซื้อรถจริงๆ มีวิธีที่ช่วยได้อยู่อย่างหนึ่ง นั่นคือการวางเงินดาวน์สูงๆ ไปเลยครับ สำหรับคนที่มีหนี้บัตรเครดิตเยอะ หรือประวัติการชำระไม่ค่อยดี อาจจะต้องวางเงินดาวน์ไว้สูงถึง 30-40% ของราคารถยนต์เลยทีเดียว เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับสถาบันการเงิน เค้ารู้ว่าเราสามารถผ่อนต่อเดือนไหว เพราะดาวน์เยอะ ก็จะผ่อนน้อยลงตามไปด้วย
หรือจะให้ดีที่สุดแนะนำให้หาคนที่มีประวัติทางการเงินดีมาค้ำประกันให้เราในการซื้อรถเลยก็ช่วยได้เช่นกัน ซึ่งธนาคารก็จะพิจารณาประวัติทางการเงินของคนคนนั้นร่วมด้วย ช่วยให้มีโอกาสได้รับอนุมัติสินเชื่อรถยนต์ได้ง่ายดาย
พวกสถาบันการเงินอย่างลิสซิ่งก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกสำหรับคนที่อยากซื้อรถเช่นกัน เพราะเค้าจะอนุมัติอย่างรวดเร็ว ง่ายดาย และทำหน้าที่สำหรับรถยนต์โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น รถแลกเงิน จำนำทะเบียนรถ กู้เงินซื้อรถ สินเชื่อรถยนต์มือสอง ไฟแนนซ์รถยนต์ หรือกู้เงินโดยเอารถยนต์ค้ำประกันแบบไม่โอนเล่มก็ยังได้
ซึ่งจริงๆ แล้วหลักการในการพิจารณาว่าจะปล่อยสินเชื่อให้กับใครสักคนนั้น ของทั้งธนาคารและลิสซิ่งเองก็มีหลักการณ์คล้ายๆ กัน ซึ่งจะดูจากที่มาของรายได้ รายได้ต่อเดือน ภาระหนี้ที่คนกู้มีว่ามากน้อยแค่ไหน ถ้าทำบัตรเครดิตไว้แล้วติดหนี้เยอะโอกาสก็น้อยลง เค้าจะดูว่ามีความสามารถในการจ่ายหรือไม่
แต่เอาจริงๆ ลิสซิ่งเองก็จะมีการตรวจเช็กรายละเอียดการกู้ยืมที่ไม่ค่อยเข้มงวดเท่ากับธนาคาร ดังนั้นการอนุมัติก็อาจจะง่ายกว่าเล็กน้อย รวมถึงรู้ผลการอนุมัติที่เร็วกว่า และมีโปรโมชั่นหรือดอกเบี้ยส่วนลดต่างๆ ที่น่าสนใจกว่าธนาคารอีกต่างหาก ดังนั้นการกู้กับสถาบันการเงินลิสซิ่งเองจึงเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
สุดท้ายแล้วถ้าคุณเป็นคนทำบัตรเครดิตเอาไว้ แล้วมันสร้างหนี้มากมาย กลายเป็นดินพอกหางหมูที่ในแต่ละเดือนทำได้แค่จ่ายขั้นต่ำไปวันๆ หนี้ของคุณก็มีแต่จะเพิ่มขึ้นโดยไม่จบสิ้น ซึ่งการปิดหนี้ที่ดีที่สุดคือ การรวมหนี้ทุกอย่างให้กลายเป็นก้อนเดียว ซึ่งถ้าคุณมีรถยนต์อยู่แล้ว ทางออกทางเดียวคือการนำรถแลกเงิน จำนำทะเบียนรถ แบบไม่ต้องโอนเล่ม เพื่อให้ได้เงินก้อนมาปิดหนี้บัตรเครดิตตรงนี้ให้จบลง แล้วผ่อนสินเชื่อรถยนต์อย่างเดียวเท่านั้นเป็นทางออกที่ดีที่สุด
เพราะอัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อรถแลกเงินนั้นจะถูกกว่าดอกเบี้ยจากการทำบัตรเครดิต เนื่องจากบัตรเครดิตเป็นสินเชื่อที่มีความเสี่ยงสูงสำหรับธนาคาร ไม่มีหลักทรัพย์ใดๆ ค้ำประกัน ทำให้เค้าต้องคิดดอกเบี้ยแพง แต่สินเชื่อรถแลกเงินเค้ามีรถยนต์เราคอยค้ำประกันให้อยู่ อัตราดอกเบี้ยจึงถูกลง ดังนั้นวิธีปิดหนี้คนที่ทำบัตรเครดิตแล้วสร้างหนี้ไว้เยอะจึงเป็นวิธีนี้นี่เอง
โดยเฉพาะในปี 2564 หรือ 2021 นี้มีสถาบันการเงินที่ให้บริการรถแลกเงินอยู่มากมาย สามารถเช็กหาเจ้าดีๆ ที่ดอกเบี้ยถูก มีความน่าเชื่อถือ และตรงความต้องการของคุณได้ผ่านทางออนไลน์ได้เลย